preview

Case Study : John & Marsha on Portfolio Selection

Satisfactory Essays

บทสรุปผู้บริหาร
จากกรณีศึกษา John ต้องทำการตัดสินใจว่า ในพอร์ตการลงทุนที่เขาบริหารจัดการอยู่นั้น ควรซื้อหุ้น PioneerGypsumหรือGlobal Miningในสัดส่วนเท่าไหร่ จึงจะสามารถได้ผลตอบแทนที่สูงบนพื้นฐานความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งแต่เดิม John ไม่ได้ทำการกระจายการลงทุน (Diversified) โดยทำการวิเคราะห์จากการคำนวณหา Expected Return, Risk Premium และคำนวณ Standard Deviationเพื่อนำไปคำนวณหา Sharpe Ratio ที่มีอัตราส่วนที่สูงที่สุด ซึ่งอธิบายถึงผลตอบแทนที่ถูกปรับด้วยความเสี่ยง ที่ดีที่สุด
เมื่อได้ทำการวิเคราะห์และคำนวณ Sharpe Ratio แล้ว พบว่า หุ้นที่เหมาะสมที่จะทำการลงทุนเพิ่ม ได้แก่ Pioneer Gypsum โดยลงทุนในสัดส่วน 4% จึงทำให้การลงทุนในตลาดเป็น 96% เนื่องจากเป็นสัดส่วนที่ทำให้ Sharpe Ratio มีค่าสูงที่สุด คือ 0.4702 …show more content…

lobal Mining แทนที่ Pioneer ตามที่ Marsha แนะนำ John จะต้องลงทุนอย่างไร เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ปรับกับความเสี่ยงสูงที่สุด หรือ Sharpe ratio สูงที่สุดนั่นเอง โดย Global accounts for .75% index และ market standard deviation เท่ากับ 16% และ Return ของตลาดเท่ากับ 12.5 โดยมี Risk-free Rate เท่ากับ 0.05
Solutions
ในการตัดสินใจเลือกหุ้นตัวใดเข้าพอร์ตการลงทุนนั้น เราต้องพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญๆ เช่น ดัชนีวัดผลการดำเนินงาน การวัดผลตอบแทนจากการลงทุน และค่าความเสี่ยง เป็นต้น ซึ่งตัววัดเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงตัวเลขที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นรวมถึงสามารถพิจารณาสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด
ในการคำนวณเพื่อหาสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดและทำให้เกิดผลตอบแทนมากที่สุดในการจัดพอร์ตการลงทุน เราสามารถดูจากการคำนวณ Sharpe Ratio ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ใช้วัดผลตอบแทนที่ปรับด้วยค่าความเสี่ยงเปรียบเทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยง หรืออาจอธิบายโดยง่ายก็คือพอร์ตการลงทุนที่ดี จะมี Sharpe Ratio สูง โดยสามารถศึกษาจากกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 ลงทุนในตลาดและหุ้น Pioneer Gypsum

จากกราฟข้างต้น เป็นกราฟที่แสดงเปรียบเทียบระหว่างค่า Expected Return ของพอร์ตการลงทุนแต่ละแบบ ที่ลงทุนในหุ้นของ Pioneer ที่ระดับ Standard Deviation ต่างๆ กัน โดยจากกราฟจะแสดงพอร์ตที่แตกต่างกัน 7 แบบ โดยเส้นตรงที่แสดงคือ เส้นที่เกิดจากการนำข้อมูลจาก Sharpe Ratio และนำมาประยุกต์ใช้กับทฤษฎี Capital Asset Pricing Model (CAPM) ที่ใช้ในการคำนวณหาผลตอบแทนที่คาดหวังของพอร์ตการลงทุน ซึ่งจะเห็นว่าจุดที่มี Return สูงกว่า Expected Return ตาม CAPM ก็คือจุดที่ 3, 4 และ 5

Get Access